Friday, April 3, 2009

ลำดับ๕๒๘.กองแลปฏิวัติ(๕)

บทที่ ๕

ทันทีที่กองแลได้ทราบรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเจ้าสุวรรณภูมา เขาก็โทรเลขไปถึงเจ้าสุวรรณภูมาที่หลวงพระบาง ขอให้ถอนภูมี หน่อสวันและท้าวอินแปง สุริยะไท ออกจากคณะรัฐมนตรี หรือมิฉะนั้นก็ให้จับตน(กองแล)และทหารอีก ๘๐๐ คนประหารชีวิตก็แล้วกัน.

เจ้าสุวรรภูมาโทรเลขตอบกลับว่าสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบไปแล้วและเจ้ามหาชีวิตก็ได้ลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีไปแล้ว จึงไม่อาจที่จะทำตามคำขอร้องของกองแลได้

ในที่สุดกองแลก็ยอมตามคำชี้แจงของเจ้าสุวรรณภูมา แต่ก็ยังไม่ถอนกำลังกลับเข้าสู่ที่ตั้งปกติ คงยังยึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆไว้เช่นเดิม และต่อมาในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๐๓ ทหารของกองแลได้ปะทะกับทหารภาค ๓ ภาค ๔ ของฝ่ายภูมี ที่มีพลจัตวาบุญเลิศ สามิจัน เป็นผู้บัญชาการ ส่วนทางซำเหนือทหารของภูมีก็ได้ปะทะกับทหารฝ่ายแนวลาวรักชาติ

ต่อมาได้เกิดการปะทะกันอีก ๓ จุด ระหว่างฝ่ายกองแลร่วมกับทหารแนวลาวรักชาติปะทะกับทหารฝ่ายภูมี ที่บริเวณปากซัน เมืองสานะคาม เชียงค้อ บ้านแอด แขวงซำเหนือ การปะทะกันทุกครั้งได้สร้างความเสียหายให้กับทหารฝ่ายภูมีตลอดมา

วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๐๓ ภูมี หน่อสวันได้ประกาศงดใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรลาวและประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ขณะเดียวกันก็ได้จัดตั้งคณะปฏิวัติตามแบบอย่างของสฤษดิ์ ธนะรัชต์ผู้เป็นน้า โดยให้เจ้าบุญอุ้ม ณ จำปาศักดิ์เป็นหัวหน้าคณะ นิตยสารไทม์ของอเมริกันได้เคยชมเชยเจ้าบุญอุ้มไว้ว่าเป็นแบบฉบับของผู้ชายเจ้าสำราญของลาวโดยแท้ มีของโปรดอยู่ ๓ อย่างคือ เงิน,เหล้า,และผู้หญิง ดังนั้นเมื่อเจ้าบุญอุ้มได้มาเป็นผู้นำคณะปฏิวัติก็เป็นเรื่องขบขันกันทั่วทั้งเวียงจันทน์

เหตุที่ภูมีและบุญอุ้มฉีกตัวออกจากรัฐบาลเจ้าสุวรรณภูมาและทำรัฐประหารซ้อนล้มรัฐบาลนั้น ภูมีอ้างว่าเพราะรัฐบาลเจ้าสุวรรณภูมาไม่สามารถรักษาสภานการณ์ ปล่อยให้เวียดมินห์บุกรุกรานราชอาณาจักรลาวทางด้านแขวงพงสาลี ซำเหนือ และเชียงขวาง

แต่ข้อเท็จจริงปรากฎว่า เพราะภูมีไม่พอใจในนโยบายเป็นกลางและสันติของเจ้าสุวรรณภูมา ที่มีท่านกีนิน พลเสนาพลักดันอยู่เบื้องหลัง และเพราะในการดำเนินนโยบายเป็นกลางในสายตาของภูมีที่สวมแว่นอเมริกัน เห็นว่าเป็นการเปิดโอกาสให้คอมมิวนิสต์และแนวลาวรักชาติ ภูมีจึงพยายามที่จะเอาชนะทางการทหารเพื่อมาต่อรองทางการเมือง แต่ภูมีก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ

ในการปะทะกันหลายครั้งหลายพื้นที่ระหว่างทหารของภูมีกับทหารของกองแลและทหารฝ่ายแนวลาวรักชาติ ปรากฏว่าทหารของภูมีไม่ประสบชัยชนะเลย ไม่ว่าจะเป็นที่ปากซัน เมืองสานะขาม ซำเหนือหรือเชโปน ภูมีจึงไม่มีหวังในการสู้รบนอกจากจะได้รับการช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและกำลังของสฤษดิ์ ธนะรัชต์จากไทย

แต่การที่สหรัฐและสฤษดิ์จะยื่นมาช่วยเหลือภูมีได้ ภูมีก็จะต้องถอนตัวออกมาเสียจากรัฐบาลเจ้าสุวรรณภูมาแล้วประกาศจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่คือคณะปฏิวัติ และทันทีที่ภูมีประกาศแยกตัวออกจากรัฐบาลและจัดตั้งคณะปฏิวัติขึ้น ความช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาในทางการทหารที่มาคอยรออยู่แล้วในฝั่งประเทศไทย ก็หลั่งไหลเข้าสู่สวันเขตทันทีรวมทั้งที่ปรึกษาทางทหาร และเงินช่วยเหลือพิเศษสำหรับภูมี ๑๖ ล้านดอลล่าร์

เมื่อเผชิญแผนยกทัพบุกเวียงจันทน์ของภูมี หน่อสวัน เจ้าสุวรรณภูมาก็ต้องหันพึ่งฝ่ายปเทดลาวขอให้เข้าร่วมเป็นรัฐบาลผสม การเจรจาระหว่างฝ่ายแนวลาวรักชาติกับฝ่ายเจ้าสุวรรณภูมา อันมีท่านกีนิน พลเสนา ท่านมหากุ สุวรรณเมธี ท่านมหาบุคดีและท่านเพ็ง พงศ์สวัน ก็ได้ดำเนินไปด้วยดี เพราะมีเป้าหมายตรงกันคือความปรองดองแห่งชาติ สันติภาพและเป็นกลาง

การเจรจาได้แบ่งเป็น ๒ คณะ คือคณะเจรจาปัญหาการเมืองมีท่านหนูฮักเป็นหัวหน้าคณะ กับคณะเจรจาปัญหาทางการทหาร มีท่านสิงกะโปเป็นหัวหน้าคณะเจรจากับคณะของกองแล

การเจรจาปัญหาทางการทหารเป็นการเจรจาปัญหาเฉพาะหน้า คือแผนต่อสู้กับภูมี ป้องกันเวียงจันทน์ ซึ่งท่านสิงกะโปได้รับมอบหมายจากที่ประชุมให้หัวหน้าบัญชาการรักษาเมืองเวียงจันทน์.

No comments: