Monday, April 27, 2009

ลำดับ๖๐๓.ยุทธการภูผาที(๔)

บทที่ ๔ ความพ่ายแพ้เมื่อ ๒ ปีก่อน

กระสุนนัดแรกเจาะเข้าที่สะโพกของโพ เขาสะดุ้งเฮือกตัวหมุนคว้างล้มคว่ำหน้าลงกับพื้นฝุ่น ขาสองข้างปราศจากความรู้สึกใดๆ ขณะนอนพังพาบพยายามใช้มือเขย่าขาสองข้าง เขาได้ยินเสียงหัวหน้าพารูชาวไทยร้องเรียกเขาอยู่ด้านหลังว่า “โทนี ช่วยผมด้วย”

โพไม่สนใจต่อเสียงร้องขอความช่วยเหลือของพารู เขาหยิบระเบิดมือที่ติดตัวมาด้วยนำมาวางเรียงบนพื้นข้างตัว ขณะนั้นเขาสังเกตเห็นข้าศึกโผล่หัวพ้นแนวคันดิน ต่ำลงไปอีกข้างของรันเวย์ มีด้วยกัน ๓ คน ในมือมีปืนกลรูปร่างคล้ายปืนกลรุ่นทอมสัน ที่มีรูอยู่รอบบริเวณกล่องกระสุนและลำกล้องเพื่อระบายความร้อน ทั้งสามสวมชุดพรางลายเสือ เขาไม่เคยได้ยินว่าทหารเวียดนามเหนือสวมชุดพรางลายเสือมาก่อน เขาจดจ่ออยู่กับระเบิดมือและตรวจดูปืนไรเฟิลประจำกาย เมื่อทหารเวียดนามเคลื่อนเข้ามาใกล้ได้ระยะ โพดึงสลักระเบิดออกนับถึงสามแล้วจึงขว้างระเบิดมือออกไปเป็นแนวเส้นโค้ง จากนั้นดึงสลักมือลูกต่อไปออก โยนไปได้ ๓-๔ ลูกก็ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวจากรันเวย์ด้านนั้นอีก โพคิดว่าเขาคงจัดการข้าศึกได้หมดแล้ว

โพมองสำรวจรอบตัว เขาเห็นหัวหน้าพารูชาวไทยนอนตายอยู่ บริเวณลำตัวพาดทับอยู่บนพุ่มไม้ ใกล้ๆกันนั้นคืนอื่นๆล้วนถูกสังหารจนหมดมีเขารอดอยู่เพียงคนเดียว โพสำรวจร่างกายตนเองเห็นรูขนาดใหญ่ที่สะโพก มองเห็นกระดูกสีขาวและเลือดไหลทะลักออกมาเต็มไปหมด

โพใช้ปืนเอ็ม ๑ แทนไม้เท้ายันกายเดินกลับมาบริเวนฐาน เมื่อมาถึงเขาบอกพวกม้งและพวกพารูที่เหลือให้ออกไปนำศพเพื่อนๆกลับเข้ามา พวกนั้นจึงเริ่มออกเดินไปยังรันเวย์สนามบิน

แม้ขณะที่กำลังจะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โพยังต้องสั่งการทหารที่เหลือในฐาน เพราะดับหัวหน้าพวกเขาล้วนถูกสังหารในเหตุการณ์จนหมด โพสั่งให้ทหารคอยวิทยุติดต่อกับพวกของทอง และทำตามที่ทองสั่ง เพราะทองเป็นผู้มีประสบการณ์ โพมีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับพวกทหาร เพราะหัวหน้าพารูชาวไทยที่เคยทำหน้าที่ล่ามได้ตามแล้ว และทหารม้งอีกคนหนึ่งที่พอฟังภาษาอังกฤษได้ก็เสียสติขวัญผวาเกินกว่าจะฟังที่โพพูด

โพติดต่อวิทยุกับทองอีกครั้ง ขณะนั้นทองกำลังนำกำลังถอยร่นไปทางภูผาที เขาบอกกับทองให้คอยรักษากระบวนทัพขณะถอยร่น ทองตอบกลับมาด้วยภาษาลาวที่โพไม่เข้าใจ โพพยายามบอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดในตอนนี้ คือการส่งพวกชาวบ้านไปสมบทพวกของทองแต่หากพวกนั้นต้องการอยู่ในที่มั่นก็ต้องแน่ใจว่าเมื่อจำเป็นต้องถอยผู้ที่อยู่ใกล้แนวข้าศึกที่สุดจะเป็นผู้ที่ถอนตัวออกมาก่อน และการถอยจะต้องทำอย่างมีวินัย และมีกระบวนห้ามมั่วเด็ดขาด

ลูกปืนยังคงหวีดหวิวแหวกอากาศมาจากระยะห่างออกไป ทางทิศตะวันออกมีเสียงดังคลิกเบาๆ เมื่อหัวกระสุนตัดทะลุผ่านตับหญ้าแฝกที่ใช้มุงหลังคากระท่อมแทบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากแผลกระสุน แต่หลายคนถูกสะเก็ดกระสุนปืน ค. เข้าที่บริเวณใบหน้าและหัวไหล่ ซึ่งล้วนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ทั้งสิ้น ใบหน้าบางคนถูกฉีกหายไปครึ่งหน้า เหมือนโดนขวานจาม โดยที่ยังมีฟันห้อยติดอยู่

No comments: