Friday, April 24, 2009

ลำดับ๕๙๖.สถานการณ์ปี๒๕๐๙-๑๐(๒)

บทที่๒

เซ็กคอร์ดได้ขอให้เอฟ-105 จำนวนหนึ่งหันจากเส้นทางโฮจิมินห์ เทรล นักบินจ่าฝูงนำลูกฝูงเสี่ยงอันตรายฝ่าหมู่เมฆหนาที่ปกคลุมเหนือพื้นที่เข้ามา แต่ด้วยความเร็วของเครื่องไอพ่นทำให้ไม่สามารถเห็นเป้าหมายเบื้องล่างได้เพราะเป็นข้อจำกัดของการบินด้วยความเร็วสูงจึงไม่สามารถโจมตีเป้าหมายในพื้นที่แคบๆ เช้าวันต่อมากำลังทางอากาศได้กระหน่ำโจมตีจนฝ่ายปเทดลาวต้องถอยออกไปจากพื้นที่ๆยึดครอง

แม้ว่ากำลังทางอากาศจะสามารถช่วยกองทหารวังเปาไว้ได้ แต่แลร์ไม่เคยเชื่อว่ากำลังทางอากาศได้ช่วยนัคฮัง หรือที่มั่นแห่งอื่นๆให้รอดพ้นจากการถูกเข้ายึดครอง แลร์ไม่เคยสนับสนุนการรบแบบตั้งอยู่ในที่มั่นมาตั้งแต่เริ่มแรก และเหตุการณ์ก็คงจะไม่เป็นไปในรูปนี้ หากเขามีอำนาจควบคุมสงครามในลาวโดยสมบูรณ์

แลร์เชื่อว่าหากนัคฮังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างที่มันเป็นอยู่ และหากกองทัพอากาศไม่นำเอาฝูงเฮลิคอปเปอร์กู้ภัยลำมหึมาไปประจำอยู่ที่นั่นแล้ว มันก็คงไม่ตกเป็นเป้าโจมตีของข้าศึกอย่างแน่นอน มันเหมือนเป็นการเชื้อเชิญทหารเวียดนามเหนือให้เข้ามาลองของในอีกไม่ช้าก็เร็ว และเมื่อเครื่องบินไอพ่นเข้ามารับภาระของการสู้รบไปจากพวกชาวเขา ต่อจากนี้ไปพวกม้งก็จะไม่ยอมออกลาดตระเวนไปรอบๆฐานที่มั่น โดยพวกเขาจะอ้างว่า การทำเช่นนั้นมันเป็นการเสี่ยงอันตรายเกินไป

ด้วยเหตุนี้ แลร์จึงพอใจกับสงครามในแบบร้านชำเล็กๆ มากกว่าแบบซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เขารู้ว่าชัยชนะครั้งนี้จะส่งผลเป็นความพินาศย่อยยับในอนาคตข้างหน้า ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นเรื่องซับซ้อนอยู่ในตัวของมันเอง แลร์ไม่ต้องการสงครามขนาดใหญ่ แต่เขาชื่นชมเซ็กคอร์ดที่เข้ามายกระดับสงครามที่นี่ แลร์เชื่อว่าหากเซ็กคอร์ดรักษาเนื้อตัวอย่างดีเขาอาจจะได้เป็นผู้บัญชาการกองทัพอากาศก็ได้

ในปี ๒๕๑๐ อาคาร HQ-333 หลังเก่าเริ่มจะแออัดยัดเยียดและทรุดโทรมลง พวก ส.ส.และแขกวีไอพีอื่นๆที่มาเยี่ยมชมมักจะอดมองไปรอบๆอย่างแปลกใจไม่ได้ แม้พวกเขาจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาให้ได้ยินทำนองว่า นี่นะหรือศูนย์ควบคุมปฏิบัติการลับขนาดมหึมาในลาวก็ตาม

No comments: