Thursday, April 16, 2009

ลำดับ๕๔๘.วิกฤตการณ์ในลาว(๒)

บทที่ ๒

๒๓ มีนาคม ๒๕๐๔ ที่กรุงวอชิงตัน ห้องประชุมตึกที่ทำการกลางกระทรวงต่างประเทศ มีการจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนโดยประธานาธิบดีเคนเนดี้ ผู้สื่อข่าวได้ทยอยเข้ามาห้องประชุมจนเต็ม บนเวทีมีบอร์ดขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าขาว ครู่ต่อมาเมื่อประธานาธิบดีปรากฏกายขึ้น ผ้าคลุมบอร์ดก็ถูกดึงออกเผยให้เห็นแผนที่ของประเทศลาวขนาดใหญ่เรียงกัน ๓ แผ่น

แผนที่แสดงให้เห็นเขตพื้นที่ยึดครองของกองกำลังฝ่ายต่างๆในลาว ในช่วงเวลาที่ต่างกัน สีแดงแทนพื้นที่ยึดครองของฝ่ายซ้าย สีขาวและฟ้าแทนพื้นที่ยึดครองของฝ่ายเป็นกลางและฝ่ายนิยมกษัตริย์ตามลำดับ

บนแผนที่แรกเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดการรัฐประหารของฝ่ายเป็นกลางในเดือนสิงหาคม ๒๕๐๓มีสีแดงเป็นหย่อมๆ ส่วนแผ่นที่๒แสดงระยะเวลาหลังจากที่ฝ่ายขาวสามารถยึดเวียงจันทน์กลับคืนมาได้ในเดือนธันวาคม ๒๕๐๓ บนแผนที่แผ่นที่๒นี้ จุดสีแดงได้ขยายกลายเป็นแถบสีกระจาย และบนแผนที่แผ่นที่๓ซึ่งแทนช่วงเวลาปัจจุบัน แถบสีแดงได้ขยายเป็นแนวหนา ทาบทับทุ่งไหหินและพื้นที่รอบๆ

เคนเนดี้ก้าวขึ้นยังแท่นปราศรัย กล่าวแก่ผู้สื่อข่าวว่า “ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ชาวอเมริกันทุกคนต้องเข้าใจอันตรายที่อาจก่อเกิดขึ้นจากปัญหานี้ ในการพูดคุยครั้งหลังสุดกับท่านนายพลไอเซนฮาวเออร์ก่อนวันรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ ๑๙ มกราคมที่ผ่านมานั้น ผมและท่านนายพลได้ใช้เวลาถกกันในประเด็นปัญหานี้มากกว่าเรื่องอื่นๆ และจากนั้นมา ปัญหาในลาวได้กลายเป็นประเด็นปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนที่สุดของคณะทำงานของผม เมื่อเข้ามารับหน้าที่บริหารประเทศ”

เคนเนดี้ไม่ได้เอ่ยถึงแรงกดดันจากฝ่ายกระทรวงกลาโหม ที่ต้องการให้เขาส่งทหารราบอเมริกันเข้าไปในลาว หรือเรื่องความเอือมระอาที่เขามีต่อกองกำลังฝ่ายขวาภายใต้การบัญชาการของนายพลภูมี หน่อสวัน ที่มักจะหันหลังวิ่งหนีทุกครั้งที่มีการปะทะกับฝ่ายปเทดลาวหรือฝ่ายกลางของกองแล แต่เคนเนดี้ก็ยังเดินหน้าโกหกนิทานหลอกเด็ก ว่าได้เผชิญหน้ากับทหารจีนหรือแม้แต่ทหารโซเวียตในเขตภูเขาของลาวต่อไป นอกจากนั้นเคนเนดี้มิได้กล่าวว่าปัญหาในลาวได้เริ่มหลอกหลอนเขาและคณะที่ปรึกษาในทำเนียบขาวมากขึ้นทุกคณะ สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเล็กๆที่ลึกลับแห่งนี้อาจก่อเป็นปัญหายุ่งยากซับซ้อน ให้พวกเขาต้องติดตามแก้ไขต่อไปอีกนานในอนาคตข้างหน้า

เคนเนดี้เลือกที่จะเปิดเผยเพียงสิ่งที่จำเป็นต่อสาธารณชนเท่านั้น และการสื่อสารกับมวลชนนี้เป็นสิ่งที่เขาทำได้อย่างดีเสมอมา ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวเชื่อมั่นยามเตืนชาวอเมริกันให้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่อาจเกิดขึ้นหากจำเป็นขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณไปยังมอสโควว่ายังคงมีช่องว่างสำหรับการเจรจาต่อรองเปิดอยู่ “ประการแรก เรายังคงยืนหยัดในจุดยืน ที่ต้องการให้ประเทศลาวมีเสรีภาพและเป็นกลาง ประการที่สอง หากแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธีจะเป็นจริงขึ้นได้ การใช้กำลังทหารของกองกำลังต่างชาติ ที่สนับสนุนฝ่ายซ้ายในลาวจะต้องยุติลง… ไม่มีข้อสงสัยกังขาใดๆ ในจุดยืนของเราในเรื่องดังกล่าวนี้… ประการที่สาม เราสนับสนุนให้เกิดการเจรจาระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและระหว่างผู้นำของฝ่ายต่างๆในลาว”

เคนเนดี้กล่าวทิ้งท้ายว่า “พี่น้องชาวอเมริกันทั้งหลาย ลาวนั้นตั้งอยู่ห่างไกลจากอเมริกาก็จริง แต่อย่างที่เรารู้ว่าโลกใบนี้เป็นโลกใบเล็กๆ มีคนสองล้านคนอาศัยอยู่ในลาวประเทศที่มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่กว่าประเทศออสเตรีย ๓ เท่าตัว ความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะถูกคุกคาม หากลาวสูญเสียเอกราชและความเป็นกลางไป ความอยู่รอดปลอดภัยและความเป็นกลางของลาวเกี่ยวข้องอย่างแยกไม่ออก ต่อความมั่นคงของอเมริกา ผมต้องการให้เกิดความกระจ่างชัดในใจชาวอเมริกัน และต่อโลกทั้งมวลว่า สิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือสันติภาพในลาวหาใช่สงคราม รัฐบาลที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง มิใช่รัฐบาลที่เป็นลูกสมุนต่างชาติ หรือสัญญาข้อตกลงบนโต๊ะเจรจาแต่ไม่มีผลใช้จริงในสมรภูมิการรบ”

No comments: