Tuesday, March 17, 2009

ลำดับ๕๐๓.สงครามลับของCIAในลาว(๑๖)

สงครามลับของ CIA ในลาว
บทที่ ๑๖ เจ้าพี่-เจ้าน้องทำความตกลงกันได้

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับท้าวกระต่ายทำให้เขาต้องพ้นไปจากเหตุการณ์ทางการเมืองนานสองสัปดาห์และนั่นเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เจ้าพี่เจ้าน้องได้เจรจากันเพื่อยุติสงครามกลางเมือง การเจรจาดังกล่าวนี้มีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๔๙๙ และเมื่อเจ้าน้องสุภานุวงค์เดินทางมาถึงเวียงจันทน์ การสู้รบก็ระงับไปโดยสิ้นเชิง เมื่อล่วงเข้าปลายปี ๒๔๙๖ ทั้งสองฝ่ายก็สามารถเจรจาทำความตกลงกันได้ในประเด็นต่างๆทั้งหมด

แนวลาวรักชาติจะได้จัดตั้งเป็นพรรคการเมือง และส่งตัวแทนเข้าร่วมรัฐบาลผสมชุดใหม่ของประชาชาติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งในระหว่างที่มีการเลือกตั้งทั่วประเทศ รัฐบาลลาวจะดำเนินนโยบายเป็นกลางโดยมีพื้นฐานอยู่ที่หลักปัญจศีลของการอยู่ร่วมกันโดยสันติและ “จะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับประเทศใดและจะไม่ยอมให้ประเทศหนึ่งประเทศใดตั้งฐานทัพทางทหารขึ้นในดินแดนลาวนอกจากที่ได้มีปรากฏอยู่ในสัญญาสงบศึกเจนีวา”

การที่ท้าวกระต่ายต้องได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ซึ่งยังผลให้เจ้าพี่-เจ้าน้องสามารถทำความตกลงกันได้ ชาวลาวในเวียงจันทน์จึงพร้อมใจกันเห็นควรให้สร้างอนุสาวรีย์ให้แก่ม้าตัวที่ทำให้ท้าวกระต่ายได้รับบาดเจ็บ และเห็นควรให้สร้างขึ้นแทนที่อนุสาวรีย์ของ ม.ปาวี ฝรั่งเศสผู้บุกเบิกลัทธิล่าเมืองขึ้นในลาวด้วย

ความตกลงระหว่างเจ้าพี่กับเจ้าน้องนี้เป็นการแสดงถึงความล้มเหลวครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาในความเพียรพยามที่จะก่อตั้งรัฐบาลหุ่นของตนขึ้นในลาวอย่างมั่นคง กราแฮม พาร์สันส์ ผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตรสหรัฐอเมริกาประจำลาว ภายหลังได้มาให้การต่อคณะกรรมาธิการของรัฐสภาอเมริกาว่า

“ข้าพเจ้าต่อสู้อยู่ถึงสิบหกเดือนที่จะยับยั้งไม่ให้มีรัฐบาลผสม(เจ้าพี่-เจ้าน้อง) ขึ้นในลาว” แต่ก็ต้องประสบความล้มเหลวไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ดี เขายังคงต่อสู้ต่อไปอีกในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศฝ่ายตะวันออกไกล

No comments: