Monday, March 2, 2009

บทความที่๔๕๙.การอภิวัฒน์ของประชาชนลาว(๘)

การอภิวัฒน์ของประชาชนลาว

บทที่ ๘ ญี่ปุ่นพ่ายแพ้

ในการดำเนินการตามแผนดังกล่าว ได้มีการมอบหมายให้ทัม ไชยะสิดเสนา เป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านการเมืองและการทหาร เดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปสำรวจหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการและก่อสร้างสนามบิน ในที่สุดก็ได้สถานที่เหมาะสมบริเวณภูเขาควายด้านตะวันออก จากนั้นเดินทางกลับมาฝั่งไทย

ช่วงเวลานี้ กระแสต่อต้านอำนาจการปกครองของฝรั่งเศสยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในโคชินไชน่า ตองกิง อันนัม ลาว และกัมพูชา กองทหารญี่ปุ่นที่เข้าไปในดินแดนของลาวได้ยื่นคำขาดต่อนายพลเรือ เดอกูซ์ ผู้ว่าราชการอินโดจีนของรัฐบาลวีชีฝรั่งเศส ให้กองทหารและตำรวจฝรั่งเศสยอมวางอาวุธและอยู่ใต้คำสั่งของกองทัพญี่ปุ่นโดยให้คำตอบภายใน ๒ ชั่วโมง

นายพลเรือ เดอกูซ์ตอบว่า จะยอมรับเงื่อนไขก็ต่อเมื่อสหรัฐอเมริการได้เข้ามาในดินแดนแห่งนี้แล้วเท่านั้น ฝ่ายญี่ปุ่นจึงส่งกำลังทหารเข้าควบคุมตัวนายพลเรือเดอกูซ์ พร้อมกันนี้ก็ปฏิบัติการโจมตีกองทหารฝรั่งเศสทั่วทุกจุดของประเทศ ในบางพื้นที่ถึงแม้ว่าทหารฝรั่งเศสจะยอมจำนนแล้วแต่ก็ไม่วายถูกทหารญี่ปุ่นสังหารทิ้ง ทหารฝรั่งเศสในตองกินส่วนหนึ่งถอนกำลังออกจากเวียดนามเข้าไปอยู่ดินแดนประเทศจีน แล้วถูกส่งตัวต่อไปยังอินเดีย โดยผ่านทางกองบัญชาการสัมพันธมิตรที่เมืองจุงกิง ส่วนทหารฝรั่งเศสในลาวส่วนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากชาวลาวพาไปซ่อนตัวอยู่ตามป่าเขา

ฝ่ายญี่ปุ่นได้ก่อตั้งรัฐฐาลหุ่นเชิดขึ้นมาภายใต้การนำของตจักรพรรดิเบ๋าได่ (The Emperor Bao Dai) บรรดาฝ่ายผู้รักชาติที่ต่อสู้เพื่อความเป็นเอกราชและอธิปไตยปฏิเสธไม่ยอมรับรัฐบาลดังกล่าว

สถานการณ์สงครามในด้านยุโรปเริ่มพลิกผัน เมื่อนายพล ชาร์ล เดอโกล ได้จัดตั้งรัฐบาลฝรั่งเศสเสรีขึ้นที่อังกฤษ หลังจากนั้นกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มปฏิบัติการรุกรบตีตอบโต้กองทัพเยอรมัน กองทหารอเมริกันและอังกฤษได้ยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์ มังดีและบริเวณชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของฝรั่งเศสอีกหลายแห่ง

กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรรุกไล่กองทัพเยอรมัน ซึ่งยึดครองกรุงปารีส ให้ล่าถอยออกไป และสามารถยึดกรุงปารีสกลับคืนมาได้ ชาวฝรั่งเศสมีโอกาสได้ต้อนรับวีรบุรุษของตนคือนายพล ชาร์ล เดอโกล และต่อมากองทัพเยอรมันได้ประกาศยอมจำนวนอย่างปราศจากเงื่อนไข ในวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๗ อีก ๒ วันถัดมาได้มีการให้สัตยาบันเงื่อนไขการยอมจำนนที่กรุงเบอร์ลิน นับแต่นั้นเป็นต้นมาสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในยุโรปก็ได้สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ

ส่วนทางด้านเอเซีย ญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรกับเยอรมันและอิตาลี ได้ถูกกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรปฏิบัติการโจมตีตอบโต้อย่างต่อเนื่องในหลายแนวรบ โดยนายพลแม็คอาเธอร์ได้ยกพลขึ้นบกที่ซานเฟเมียนและลิงกาเยนในฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๘ หลังจากนั้นมีการยกพลขึ้นบกที่หาดอิโวจิมาของญี่ปุ่น

เดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๘๘ เครื่องบินทิ้งระเบิดจากกองบินที่ ๑๔ ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดสนามบิน สถานีรถไฟ และสะพานในพม่าและอินโดจีน

วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๘ เครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายสมพันธมิตรคือ สหรัฐอเมริกา ได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดทางภาคใต้และภาคตะวัตออกของเกาะกิวชิวจากนั้นในวันที่ ๑ เมษายน ปีเดียวกัน กองทัพสัมพันธมิตรภายใต้การบัญชาการของนายพล แม็คอาเธอร์ ได้ยกพลขึ้นบกที่โอกินาวา ต่อมาก็สามารถยกพลขึ้นบกที่ริเยทางตะวันตกของโอกินาวาได้อีก พร้อมกันนี้สหรัฐอเมริกาได้ส่งฝูงบินทิ้งระเบิดเข้าปฏิบัติการโจมตีเมืองต่างๆ ทางภาคใต้และภาคตะวันออกของเกาะกิวชิว อย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง รวมทั้งเมืองต่างๆ ในเกาะฮอนชู ทั้งนี้เว้นเมืองนาราและเกียวโตที่เป็นเมืองประวัติศาสตร์ สหภาพโซเวียตซึ่งก่อนหน้านี้ได้ลงนามกับญี่ปุ่นว่าจะไม่รุกรานซึ่งกันและกัน แต่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมได้ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น

หลังจากนั้นได้เกิดจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนั่นคือ รัฐบาลฝรั่งเศสได้เปิดเจรจากับโฮจิมินห์ที่เมืองดาลัด อันเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม และมีการลงนามในสนธิสัญญาระหว่างเวียดนาม-ฝรั่งเศส ในวันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ.๒๔๘๘

No comments: