Sunday, January 6, 2008

บทความที่๓๔๑. ความพ่ายแพ้ของขบวนการฯ ๒๖ ก.พ. ๒๔๙๒ (๓)

ความพ่ายแพ้ของขบวนการประชาธิปไตย ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๒
ปรีดี พนมยงค์
-๔-
หลังจากความพ่ายแพ้ของกบฏวังหลวง เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๒ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยในการเข้าร่วมก่อการฯ ในบรรดาผู้ที่จับกุมเหล่านี้ ปรากฏว่าบางคนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการก่อการดังกล่าวเลย ศาลอาญาได้ตัดสินจำคุกผู้ก่อการฯ ประมาณ ๑๕ คนเป็นเวลาเกือบ ๙ ปีและได้ปล่อยตัวคนอื่นๆ อีกมากมาย เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ หลายคนหนีการจับกุมไปได้และหลบซ่อนอยู่ในต่างจังหวัดบ้าง ในประเทศเพื่อนบ้านบ้าง หรือที่แน่กว่านั้น ก็อยู่ในกรุงเทพฯ อย่างเปิดเผย ด้วยความใจเย็นคิดว่า ไม่มีพยานคนใดสามารถยืนยันได้ว่าได้เห็นตนเข้าร่วมก่อการฯ ซึ่งเกิดขึ้นในคืนวันที่ ๒๖ จนถึงเช้าวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์

ถึงอย่างไรก็ดี อดีตรัฐมนตรี ๔ คน ได้แก่นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายถวิล อุดล นายจำลอง ดาวเรืองและนายทองเปลว ชลภูมิ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมลงมือก่อการฯ ในวันนั้นกับเรา กลับถูกจับกุมทั้ง ๔ คน

ก่อนวันก่อการฯ ๑ วัน นายทองอินทร์ฯ นายถวิลฯ และนายจำลองฯ ได้รับคำเตือนให้อยู่ในบ้านของตน และมิให้ปรากฏตัวจนกว่าฝ่ายก่อการฯ จะประสบชัยชนะ ด้วยเหตุนี้ทั้ง ๓ คนนี้ จึงอยู่ในบ้านของตนเฉยๆ แต่จอมพลพิบูลฯและฝ่ายปฏิกิริยาได้จับกุมพวกเขาด้วยเหตุผลว่า มักทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาล ส่วนนายทองเปลวฯ นั้น อยู่ที่ปีนังเป็นเวลาหลายเดือนก่อนการก่อการฯด้วยซ้ำ

ถึงกระนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจของจอมพลพิบูลฯ ก็ประกาศว่า ได้เห็นนายทองเปลวฯ และตำรวจก็ได้ส่งโทรเลขถึงเขาโดยใช้ชื่อภรรยาของอดีตรัฐมนตรีท่านนี้เป็นผู้ส่ง นายทองเปลวฯ จึงได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยไม่ทันนึกว่าเป็นกลลวงของตำรวจ ทันทีที่ถึงกรุงเทพฯก็ถูกจับกุม

อดีตรัฐมนตรีทั้ง ๔ คนได้รับการทารุณกรรมจากฝ่ายตำรวจปฏิกิริยาจนปางตาย เพราะบาดแผลจากการถูกซ้อมอย่างป่าเถื่อน ดังนั้นเพื่อจะอำพรางบาดแผลเหล่านั้น ค่ำวันหนึ่ง ตำรวจก็ได้จับคนทั้ง ๔ ซึ่งมีอาการปางตายใส่รถบรรทุก คุ้มกันโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธปืนกลเบา และติดตามด้วยรถยนต์ตำรวจ ซึ่งกำกับโดยนายพันตำรวจผู้หนึ่ง เมื่อรถบรรทุกมาถึงสถานที่แห่งหนึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ ๒๐ กม. รถยนต์สองคันก็จอดนิ่ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ลงจากรถ และสาดกระสุนใส่ผู้บริสุทธิ์ทั้ง ๔ คน

วันรุ่งขึ้น ตำรวจก็ประกาศว่า ระหว่างการย้ายผู้ต้องหาจากสถานีตำรวจแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งนั้น ได้มีโจรจีนมลายูยิงปืนใส่ตำรวจ เพื่อชิงตัวผู้ต้องหา ตำรวจจึงจำเป็นต้องโต้ตอบด้วยปืนกลเบา และกระสุนก็ถูกผู้ต้องหาทั้ง ๔ ถึงแก่ความตาย ไม่มีใครในเมืองไทยเชื่อแถลงการณ์ของตำรวจ ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าโจรจีนมลายู(ในขณะนั้น)อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราว ๑,๐๐๐ กม.

No comments: