Monday, July 2, 2007

บทความที่ ๑๘๑. สุลักษณ์ ศิวรักษ์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องท่านปรีดีฯ

สุลักษณ์ ศิวรักษ์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องท่านปรีดีฯ (ปี ๒๕๒๖)

ถาม กรณีสวรรคตนี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนยังติดใจสงสัยอยู่ อยากให้อาจารย์พูดให้กระจ่าง

ส. พูดให้กระจ่างไม่ได้ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

ถาม หมายถึงว่าจากคำพูดของอาจารย์ปรีดี

ส. พูดไม่ได้เพราะมันสะเทือน ท่านปรีดีท่านไม่ได้พูด ท่านเอาหลักฐานมาให้ผมดู ปรากฏว่าลอร์ด หลุย เมาแบทเต็นเตือนท่านว่า มันเป็นแอ็คซิเดนท์ ควรยอมรับปัญหาจะได้หมดไป ถ้าไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ มันจะเป็นชนักติดหลัง นี่เป็นคำที่ลอร์ด หลุย เมาแบทเต็นเสนอมาว่าให้ยอมรับ ยอมรับเสียว่าเป็นแอ็คซิเดนท์ ท่านปรีดีไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ จะได้อโหสิให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บ้านเมืองจะได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มิฉะนั้นแล้วนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามจะเอาอันนี้มาทำลายได้ นี่เป็นหลักฐานที่ลอร์ด หลุย เมาแบทเต็นพูด และผมได้เห็นเอกสารนั้น เขาเปิดเผยกันแล้วที่อังกฤษ ในเมืองไทยก็มี ไม่มีใครกล้าเอามาพิมพ์กัน

ถาม เรื่องเสรีไทย อาจารย์ปรีดีกับอาจารย์เสนีย์ มีบทบาทอย่างไร

ส. คุณต้องเข้าใจนะว่า เสนีย์น่ะเป็นประเด็นเล็กมากในขบวนการเสรีไทยทั้งหมด วิธีจะดูนี่ คุณต้องถามคนรุ่นนั้นดู อาจารย์เสนีย์นี่แกนึกว่าแกใหญ่ตลอดเวลา ข้อเสียของเสนีย์นี่ แกสอบได้ที่ ๑ เป็นนักเรียนอังกฤษแกเลยนึกว่าแกที่หนึ่งตลอดเวลา ความจริงแกเล็กมากในขบวนการเสรีไทย คุณอย่าเชื่อผม คุณไปถามนักเรียนไทยในอเมริกาเวลานั้นทั้งหมด ไม่มีใครเขานับถือชอบพอเสนีย์ คุณอ่านหนังสือที่พระพิศาลสุขุมวิทเขียน หลังสงครามแล้วไปติดต่อกับอเมริกาต่าง ๆ ก็ชัดเจนว่าไม่ได้ติดต่อผ่านเสนีย์เลย ติดต่อกับอเมริกาโดยตรง

เพราะฉะนั้นเสนีย์แกมีบทบาท ไม่ใช่ไม่มีบุญคุณ แกมี แต่บทบาทและบุญคุณแกน้อยมาก แต่แกนึกว่าแกยิ่งใหญ่ คุณลองนึกดูว่าแกยิ่งใหญ่เท่าท่านปรีดีหรือไม่ ถ้าไม่มีอาจารย์ปรีดี ทำสำเร็จได้หรือไม่ ทำไม่ได้ ท่านปรีดีเวลานั้นท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ด้วย สำคัญเหลือเกิน

ท่านติดต่ออังกฤษ อเมริกาโดยตรง เสนีย์เข้ามาเกี่ยวน้อย แล้วถ้าเสนีย์ทำดี ๆ แล้วคุณจำกัด พลางกูรจะไม่ต้องตาย แต่คุณเสนีย์สนใจแต่ตัวเอง ลองไปถามนักเรียนไทยดู...แกเป็นคนแคบ เป็นคนไม่กว้างเลยและเป็นคนที่ไม่มีเวลาให้กับคนอื่น

ถาม เรื่องเสรีไทยที่ชื่อจำกัด พลางกูร ที่ถูกส่งไปเมืองจีนแล้วอาจารย์เสนีย์ ปราโมชบอกไม่รู้จัก

ส. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่อาจารย์ปรีดีส่ง(นายจำกัด)ไปเมืองจีนจริง เรื่องมันซับซ้อนมาก ถ้ามาพูดตอนนี้มันจะไขว้เขว มีคนสงสัยว่าจีนจะแอบฆ่า อะไรต่าง ๆ แต่อันนี้ก็พิสูจน์ไม่ได้ พูดกันไปก็ทะเลาะกันเปล่า ๆ แต่ที่ท่านไปตายประเทศจีน ที่จริงเรื่องนี้พูดกันตรงไปตรงมาแล้ว เขาไม่มีเอกสารเปิดเผย แล้วคนที่นั่นเขายังอยู่ เป็นใหญ่เป็นโต เป็นหัวหน้าพรรคเวลานี้ ท่านปรีดีติดต่อให้เขาไปคนแรก ที่เขาอ้างว่าเขารักชาติ แต่เขาไม่ไป! ที่ให้เขาไปเพราะมันมีประโยชน์ เพราะหัวหน้าเสรีไทยในอเมริกาเป็นหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เขาอ้างว่ารักชาติ แต่เขารักชาติโดยทำเฉพาะสิ่งที่เขาจะได้หน้า นี่มันเสี่ยงชีวิต คุณจำกัดแกก็ไป แกเป็นคนใจนักเลง มีวิชาความรู้ไม่น้อยกว่าคึกฤทธิ์ แกก็เสียสละไป แล้วไปก็ไม่ใช่ไปง่าย ภรรยาไปส่งกันที่ชายแดน ข้ามไปเมืองลาว จากลาวข้ามไปญวน จากญวนถึงจะทะลุเข้าไปทางฮานอย ต้องหาทางเข้าเมืองจีนเอง เรื่องมันหโหฬาร

ถาม ภาพที่ออกมานี่ในขบวนเสรีไทย อาจารย์เสนีย์จะเด่นมาก

ส. อ้าว ธรรมดาที่คุณเรียนที่เค้าจะต้องยกย่องเสนีย์เรื่องเสรีไทย การเปลี่ยนแปลงการปกครองนี่ก็ไปยกย่องเจ้าคุณพระยามโนฯ เขาพยายามลบท่านปรีดีฯออกจากประวัติศาสตร์เพราะอะไร ? เพราะประวัติศาสตร์ไทยเป็นประวัติศาสตร์ของอธรรม หลวงประดิษฐ์มนูธรรมท่านอยู่ฝ่ายธรรมะ ผมเองก็เติบโตมาด้วยการเกลียดหลวงประดิษฐ์ฯ เพราะว่าประวัติศาสตร์ไทยมอมเมา ให้เห็นว่าประชาธิปไตยเป็นของเลว ราชาธิปไตยเป็นของดี หลวงประดิษฐ์ฯท่านอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย คุณเสนีย์อยู่ฝ่ายราชาธิปไตย เขาเป็นหม่อมราชวงศ์ ประชาธิปัตย์นี่ก็อยู่ฝ่ายราชาธิปไตยไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย แล้วเวลานี้พรรคการเมืองทั้งหมดนี่มีแนวโน้มจะกลับไปหาราชาธิปไตย

ดูซิระบบโรงเรียน ระบบหนังสือพิมพ์ก็ปกครองด้วยระบบราชาธิปไตยทั้งนั้น มีฟังเสียงผู้น้อยหรือเปล่า แต่หลวงประดิษฐ์ท่านต้องการให้เป็นอีกอย่างหนึ่งครับ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่อยากให้มีคนอย่างท่าน ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ คือเขาต้องการจะลบท่านออกจากประวัติศาสตร์ อะไรที่เขาปฏิเสธไม่ได้ก็บอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว การแก้สนธิสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขตครั้งสุดท้ายท่านปรีดีฯเป็นคนเดินทางไปเจรจา แต่พวกนี้กลับมายกย่องฟรานซิสบีแซ บีแซนี่ต่อต้านประเทศไทยอย่างหนักเลย ต่อต้านครั้งสุดท้ายไม่ให้มีประชาธิปไตยเสนอพระปกเกล้าฯ แล้วเราก็มาเชื่อฝรั่ง ในสมัยของหลวงประดิษฐ์ฯนั้นท่านร่างกฎหมายขัดผลประโยชน์ของอเมริกัน นายบีแซเลยวีโต้ในฐานะที่ปรึกษาระห่วางประเทศแล้วเราก็ยกย่อง มีถนนกลัยา- ณมิตร บีแซ อยู่ข้างกระทรวงต่างประเทศ เราช่วยยกย่องคนเหล่านี้เพราเขาเป็นประโยชน์กับชนชั้นปกครอง

ถาม เรื่องที่จีนขอเข้ามาปลดอาวุธญี่ปุ่นในเมืองไทย

ส. อันนี้จริงทีเดียว เพราะงั้นถึงส่งจำกัด พลางกูร ไปเจรจากับเจียง ไคเช็ค ถึงต้องติดต่อกับอเมริกัน ที่นายจำกัดถูกฆ่าเพราะเหตุนี้ ถ้าจีนเข้ามาเมืองไทย เราก็จะกลายเป็นเหมือนเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ กองทัพของจีนตอนนี้ก็ยังอยู่-กองพล ๙๓ ตอนแรกก็ไม่ยอมรับ ตอนหลังก็รับออกมา นี่เป็นบุญคุณสำคัญของท่านปรีดีฯ แต่เราก็พยายามไม่นึกถึงกัน ถ้าไม่มีท่านเรื่องนี้(เรื่องต่อต้านการแบ่งไทย) ก็ไม่สำเร็จ

No comments: